skip to main
|
skip to sidebar
**ว่าที่คุณครูในอนาคต**
วันศุกร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2550
ภูมิใจนำเสนอ
สวัสดีคะ ดิฉันนางสาว สุกัญญา แกประโคน (กระต่าย)
ภูมิใจที่จะนำเสนอเรื่องราวต่างๆมากมายที่น่าสนใจ
ซึ่งสามารถเลือกอ่าน เลือกดูและเลือกที่จะชมได้เลยนะคะ
ดูซิมาจากความสามาถรของเพื่อนๆเรา
พอจะเดาได้ไหมว่ามีรูปอะไรบ้าง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
บทความใหม่กว่า
บทความที่เก่ากว่า
หน้าแรก
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
เกี่ยวกับฉัน
สุกัญญา แกประโคน
ดูโปรไฟล์ทั้งหมดของฉัน
ครอบครัวโพธิ์ทอง
นักศึกษาปี 4
น.ส. สุกัญญา แกประโคน คบ.4 ภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
ด.ญ. บัวศรี โพธิ์ทอง
น้องสาวแสนสวนคนสุดท้องของบ้าน(ซ้ายมือ)
เทศกาลลอยกระทง
"เพลง รำวงวันลอยกระทง"
วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำนองเต็มตลิ่งเราทั้งหลายชายหญิงสนุกกันจริง วันลอยกระทงลอย ลอยกระทง ลอย ลอยกระทงลอยกระทงกันแล้วขอเชิญน้องแก้วออกมารำวงรำวงวันลอยกระทง รำวงวันลอยกระทงบุญจะส่งให้เราสุขใจ บุญจะส่งให้เราสุขใจ
วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำนองเต็มตลิ่งเราทั้งหลายชายหญิงสนุกกันจริง วันลอยกระทงลอย ลอยกระทง ลอย ลอยกระทงลอยกระทงกันแล้วขอเชิญน้องแก้วออกมารำวงรำวงวันลอยกระทง รำวงวันลอยกระทงบุญจะส่งให้เราสุขใจ บุญจะส่งให้เราสุขใจ
ประเพณีลอยกระทง ตรงกับวันเพ็ญ (วันขึ้น 15 ค่ำ) เดือน 12 (ตามปฏิทินทางจันทรคติ) ประมาณเดือนพฤศจิกายน ประเพณีนี้กำหนดขึ้นเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์และขอขมาต่อแม่พระคงคา บางหลักฐานเชื่อว่าเป็นการบูชารอยพระพุทธบาทที่ริมฝั่งแม่น้ำนัมทามหานที และบางหลักฐานก็ว่าเป็นการบูชาพระอุปคุตอรหันต์หรือพระมหาสาวก สำหรับประเทศไทยประเพณีลอยกระทงได้กำหนดจัดในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณที่ติดกับแม่น้ำ ลำคลอง หรือ แหล่งน้ำต่าง ๆ ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็จะมีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจแตกต่างกันไปการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเทศกาล"สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง"เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำตลอดทั้งเดือนพฤศจิกายน นอกจากจะมีกิจกรรมเด่น ในหลายพื้นที่ เช่น งานลอยกระทงกรุงเทพมหานคร, ประเพณีลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย,ประเพณียี่เป็ง จังหวัดเชียงใหม่, ประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีปพันดวงฯ จังหวัดตาก และประเพณี ลอยกระทงตามประทีป จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นอกจากนี้แล้วยังเป็นการส่งเสริมประชาสัมพันธ์งานประเพณีลอยกระทงให้เป็นสินค้าทางการท่องเที่ยวในระดับนานาชาติ (World Events) โดยการผสมผสานกิจกรรมใหม่ ๆ ขึ้น เช่น เทศกาลโคมไฟนานาชาติหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อสร้างแรงจูงใจในการเดินทางของนักท่องเที่ยวตลอดเดือนต่อไปวัตถุประสงค์
1.เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และฟื้นฟู ประเพณี อันดีงามของไทย(โดยเฉพาะประเพณีลอยกระทงของแต่ละท้องถิ่น) ไว้สืบทอดต่อไป
2.เพื่อส่งเสริมให้งานประเพณีลอยกระทง เป็นสินค้าทางการท่องเที่ยว โดยสามารถนำเสนอในรายการนำเที่ยวเป็นประจำทุกปี ในอนาคตอย่างยั่งยืน
3.เพื่อเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวและรายได้ พร้อมทั้งขยายวันพักของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ
4.เพื่อกระตุ้นให้เกิดกระแสการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศในช่วงเทศกาลประเพณีลอยกระทง และการท่องเที่ยวทางน้ำตลอดเดือนพฤศจิกายน
สีสันแห่งสายน้ำ
เรื่องราวของสุนทรภู่กวีเอกของชาติ
ประวัติสุนทรภู่
สุนทรภู่เกิดเมื่อวันจันทร์ เดือน ๘ ขึ้น ๑ ค่ำ ปีมะเมีย จุลศักราช ๑๑๔๘ เวลาประมาณ ๘.๐๐ น. ซึ่งตรงกับวันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๓๒๙ ในรัชกาลที่ ๑ บิดามารดาชื่อใดไม่ปรากฏ ทราบเพียงว่ามารดามีเชื้อสายผู้ดี เเละทำหน้าที่เป็นแม่นมของพระธิดาในกรมพระราชวังหลัง ส่วนบิดานั้นบวชเป็นพระอยู่ที่วัดบ้านกร่ำ อำเภอเเกลง จังหวัดระยอง เมื่อสุนทรภู่โตพอสมควร มารดาได้นำไปฝากให้เรียนหนังสือที่วัดชีปะขาว หรือวัดศรีสุดารามในปัจจุบัน ครั้นมีความรู้ดีเเล้ว มารดานำไปฝากเป็นข้าในกรมพระราชวังหลัง เเต่อยู่ได้ไม่นานก็ลาออกไปเป็นเสมียน สุนทรภู่รับราชการไม่ก้าวหน้านัก เพราะติดนิสัยรักกาพย์กลอน กระทั่งในสมัยรัชกาลที่ ๒ จึงเป็นที่โปรดปรานให้เป็น "ขุนสุนทรโวหาร" ( ภู่ ) เรียกกันสั้นๆ ว่า "สุนทรภู่ " ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๔ ได้รับบรรดาศักดิ์เป็น " พระสุนทรโวหาร " เเละถึงเเก่กรรมเมื่อปีเถาะ พ.ศ. ๒๓๙๘ อายุได้ ๗๐ ปี
ผลงาน
หนังสือบทกลอนที่สุนทรภู่เเต่งมีมากมาย ที่ได้ยินเเต่ชื่อเรื่องยังหาฉบับไม่พบก็มี ที่หายสาบสูญไปเเล้วไม่ได้ยินชื่อเรื่องก็มี เเต่เรื่องที่ยังมีต้นฉบับอยู่ในปัจจุบันมี ๒๔ เรื่อง คือ
- นิราศ ๙ เรื่อง ได้เเก่ นิราศเมืองเเกลง นิราศพระบาท นิราศภูเขาทอง นิราศเมืองสุพรรณ นิราศวัดเจ้าฟ้า นิราศอิเหนา นิราศพระเเท่นดงรัง นิราศพระปฐม เเละนิราศเมืองเพชรบุรี
- นิทาน ๕ เรื่อง ได้เเก่ โคบุตร พระอภัยมณี พระไชยสุริยา ลักษณวงศ์ เเละ สิงหไตรภพ
- สุภาษิต ๓ เรื่อง ได้เเก่ สวัสดิรักษา เพลงยาวถวายโอวาท เเละสุภาษิตสอนหญิง
- บทละคร ๑ เรื่อง คือ เรื่องอภัยนุราช
- บทเสภา ๒ เรื่อง ได้เเก่ ขุนช้างขุนเเผน ตอนกำเนิดพลายงาม เเละเรื่องพระราชพงศาวดาร
- บทเห่กล่อม ๔ เรื่อง ได้เเก่ เห่เรื่องจับระบำ เห่เรื่องกากี เห่เรื่องพระอภัยมณี เเละเห่เรื่องโคบุตร
สุนทรภู่ครูกวีท่านมีชื่อ
เกียรติเลื่องลือระบือไกลไปทั่วหล้า
ทั้งโคลงกลอนกาพย์ฉันท์นั้นลือชา
ดำรงค่าไว้ในภาษาไทย
ยี่สิบหกมิถุนามาบรรจบ
เราได้พบกลอนดีดีมีมากหลาย
พระสุนทรท่านแต่กลอนไว้มาก
มายกลอนนั้นได้อยู่ในใจไทยทั้งปวง
ลองมองต่างมุม
ไม่สำคัญว่า... คุณขับรถยี่ห้ออะไร ?
สำคัญว่า... คุณเคยให้คนที่ไม่มีรถ "นั่ง"มาด้วยกี่ครั้ง
ไม่สำคัญว่า... คุณทำงานล่วงเวลามากขนาดไหน ?
สำคัญว่า... คุณให้ "เวลา" แก่ครอบครัว และคนที่รักมากแค่ไหน
ไม่สำคัญว่า... คุณมีเสื้อผ้าทันสมัยกี่ชุดในตู้ ?
สำคัญว่า... คุณเคยให้เสื้อผ้าแก่คนที่ "ขาดแคลน" ใส่กี่ชุดไ
ม่สำคัญว่า... คุณมีฐานะอะไรในสังคม ?
สำคัญว่า... คุณ "วางตัว" ในระดับไหนไ
ม่สำคัญว่า... คุณมีทรัพย์มากเท่าไหร่ ?
สำคัญว่า... สิ่งที่คุณมี มันมี "อำนาจ" ชี้ขาดชีวิตคุณแค่ไหน
ไม่สำคัญว่า... เงินเดือนสูงสุดของคุณเท่าไร ?
สำคัญว่า... คุณต้องสละ "อุดมการณ์" เพื่อได้มันมาหรือไม่
ไม่สำคัญว่า... คุณได้เลื่อนขั้นกี่ขั้นแล้ว ?
สำคัญว่า... คุณเคย "สนับสนุน" ใครให้ได้เลื่อนขั้นบ้าง
ไม่สำคัญว่า... คุณมีตำแหน่งการงานอะไร ?
สำคัญว่า... คุณทำงานสุด "ความสามารถ" หรือไม่
ไม่สำคัญว่า... คุณมีเพื่อนกี่คน ?
สำคัญว่า... คุณเป็น "เพื่อนแท้" กับใครบ้าง
ไม่สำคัญว่า... คุณเรียกร้องและปกป้องสิทธิของตัวเองอย่างไร ?
สำคัญว่า... คุณทำอะไรเพื่อ "ช่วยและปกป้อง"สิทธิคนอื่น
ไม่สำคัญว่า... สิ่งที่คุณทำสอดคล้องกับคำพูดของคุณกี่ครั้ง ?
สำคัญว่า... มีกี่ครั้งที่คำพูดของคุณ "ไม่สอดคล้อง" กับการกระทำ...
คุณสมบัติขิงกัลยาณมิตร
คุณสมบัติของกัลยาณมิตร (กัลยาณมิตรธรรม 7)
1. ปิโย - น่ารัก ในฐานะเป็นที่สบายใจและสนิทสนม
2. ครุ - น่าเคารพ ในฐานะประพฤติสมควรแก่ฐานะ
3. ภาวนีโย - น่าเจริญ หรือน่ายกย่อง ในฐานะทรงคุณคือความรู้ และภูมิปัญญาแท้จริง ทั้งเป็นผู้ฝึกอบรมและปรับปรุงตนอยู่เสมอ ควรเอาอย่าง
4. วตฺตา จ - รู้จักพูดให้ได้ผล รู้จักชี้แจงให้เข้าใจ รู้ว่าเมื่อไหร่ควรพูด อะไร อย่างไรคอยให้คำแนะนำตักเตือน เป็นที่ปรึกษาที่ดี
5. วจนกฺขโม - อดทนต่อถ้อยคำ พร้อมที่จะรับฟังคำปรึกษา ซักถามคำเสนอแนะวิพากษ์วิจารณ์ อดทน ฟังได้ไม่น่าเบื่อ ไม่ฉุนเฉียว
6. คมฺภีรญฺจ กถํ กตฺตา - แถลงเรื่องล้ำลึกได้ สามารถอธิบายเรื่องยุ่งยากซับซ้อนให้เข้าใจและให้เรียนรู้เรื่องราวที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นไป
7. โน จฏฺฐาเน นิโยชเย - ไม่ชักนำในฐานะ คือ ไม่แนะนำในเรื่องเหวไหล หรือชักจูงไปในทางเสื่อมเสียผู้ประกอบด้วยธรรม 7 ประการ ควรคบเป็นมิตรมิตรดีงาม ย่อมให้ของที่ดีงามให้ได้ยาก รับทำกิจที่ทำได้ยาก อดทนต่อถ้อยคำหยาบคายแม้ยากที่จะอดทนไว้ได้ บอกความลับของตนแก่เพื่อนไม่ละทิ้งในยามวิบัติ เมื่อเพื่อนสิ้นโภคสมบัติ ก็ไม่ดูหมิ่น ฐานะเหล่านี้มีอยู่ในบุคคลใด บุคคลนั้นเป็นมิตรแท้ผู้ประสงค์จะคบมิตร ก็ควรจะคบมิตรเช่นกัน
~*มิตรก็ให้รู้ว่ามิตร ศัตรูก็ให้รู้ว่าศัตรู*~
มนุษย์เป็นสัตว์ที่เก็บงำความรู้สึก
และปิดบังความเป็นตัวเองได้ดีที่สุด
จึงเป็นการยากมากที่จะบอกว่า
คนที่เราคบอยู่รู้สึกนึกคิดอย่างไรกับเรา
คำพูดที่หวานหู คำพูดที่ดูเหมือนจะดีไ
ม่ได้เป็นหลักประกันเลยว่ามันคือความจริงใจ
บางครั้งเราก็ไม่สามารถแยกได้ว่า
อันไหนเป็นความหวังดี หรืออันไหนเป็นคำยุยง
เพราะคนบางคนก็เสเเสร้งแกล้งทำได้
จนแม้แต่บางครั้งตัวเองยังนึกว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ
หลายคนคบหากับเราเพราะต้องการผลประโยชน์
หลายคนคบเราเพราะไม่รู้ว่าจะคบใคร
หลายคนคบเราเพราะไม่มีใครคบ
คนที่คบกันแล้วขึ้นชื่อว่าเป็นมิตรกันแล้ว
บางทีก็ควรระวัง"เพราะมิตรบางคนน่ากลัวกว่าศัตรู"
เพราะศัตรูต้องอยู่อย่างศัตรู
จะปฎิบัติอย่างศัตรูห่างไกลอย่างศัตรู ทำร้ายแต่ไม่ทรยศ
แต่มิตรที่ทรยศจะเป็นยิ่งกว่าศัตรู
เพราะความเป็นคนใกล้จะทำให้ดวงตาของเรามองข้ามทุกสิ่งไป
ความเป็นคนใกล้จะทำให้เรา
ไม่ใส่ใจกับแววตาที่เฉยชา..นิ่ง..และ
ว่างเปล่าจะไม่ทำให้เราฉุกใจ
หรือหยุดคิดกับรอยยิ้มที่ไม่มีที่มาที่ไป
การเรียนรู้ว่าใครคือมิตรแท้นั้นจึงต้องใช้เวลา
เพราะมิตรเทียมบางคน ก็เลียนแบบมิตรแท้ได้เหมือนจริง
จนแยกไม่ออกการฟัง..จึงต้องใช้หูทั้งสองข้าง
แต่การเชื่อ..อาจใช้หัวใจเพียงห้องเดียวมิตรเป็นคนสำคัญ
เพราะมิตรสามารถรู้จุดอ่อน จุดแข็งของชีวิตเรารู้ว่าหากเราล้ม
ทำอย่างไรที่จะให้เราลุก
หรือทำอย่างไรที่จะหยุดลมหายใจของเรา
เพราะคำพูดคำเดียวของมิตร
สามารถทำลายเราได้ทั้งชีวิต
การมีศัตรูร้อยคน จึงไม่น่ากลัวเท่ากับ
มี..มิตรทรยศเพียงหนึ่งคน...
ตัวแทนคุณครู
ครูผู้ห่วงศิษย์
ครูนั้นหรือคือผู้ให้ไม่เคยรับ
ศิษย์ก็กลับทรพีที่สั่งสอน
ครูก็เฝ้าอุตส่าเว้าอุตส่าวอน
ก่อนจะนอนคิดถึงศิษย์อยู่ร่ำไป
ศิษย์จะดีเพราะมีครูคอยสั่งสอน
ศิษย์ก็นอนก็นั่งไม่สนใจ
ศิษย์นั่นหรือโตไปไร้อนาคต
เพราะพูดปลดกับครูไว้หลายอย่าง
พอโตไปเดินเองไร้หนทาง
ตัวก็ว่างเพราะงานการไม่มีทำ
พากันไปกินเหล้าเข้าผลับบาร์
ดื่มสุราเข้าไปทุกๆวัน
ครูก็ว่าก็ด่ามากทุก
วันสุดแต่เวรแต่กรรมจะทำมา
คติประจำใจของนิสิตนักศึกษาทุกคน
อีกหนึ่งกำลังใจที่ช่วยให้นิสิตได้ใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย
อย่างไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆที่เกิดขึ้น
ขณะศึกษาอยู่ และท่านละมีบ้างหรือเปล่า……
* อนาคตไม่ไกล ไปให้ถึง
*ประวัติศาสตร์ไม่มีวันซ้ำรอย
*ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
*ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพราะอาจไม่มีวันพรุ่งนี้สำหรับเรา
*ความพ่ายแพ้ในวันนี้ คือบทเรียนที่ดีในวันหน้า
*ท้อแต่ไม่ถอย
*อดีต คือความฝัน ปัจจุบัน คือความจริง อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน
*จงอดทนต่อสิ่งเลวร้ายที่เกิดกับเรา เมื่อผ่านไปได้มันจะเป็นเรื่องที่เล็กสำหรับเรา
*ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน
*มุ่งหวัง ตั้งใจ ทำให้สำเร็จ
*อย่าคิดว่าทำไม่ได้ ถ้ายังไม่ได้ทำ
*ทำทุกอย่างให้เต็มความสามารถ
*ความพยายามคือหนทางแห่งความสำเร็จ
*อย่าพูดว่าหมดหวัง ถ้ายังไม่พยายาม
*ยิ้มเข้าไว้กำลังใจจะตามมา
*แรงของปลาอยู่ที่หาง แรงของคนอยู่ที่กำลังใจ
*คิดก่อนทุกคำที่พูด แต่อย่าพูดทุกคำที่คิด
*ทำสิ่งที่ดี ๆ เกิดขึ้นกับชีวิตบ่อย ๆ
*เต็มที่กับสิ่งที่กำลังทำอยู่
*อย่ากลัวกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง มีความกตัญญู ย่อมประสบความสำเร็จ
*ชีวิตไม่ได้เกิดมาเพื่อยอมแพ้
*หนึ่งครั้งที่ผิดพลาด คือฉลาดอีกหนึ่งเรื่อง
*รากฐานของตึกคืออิฐ รากฐานของชีวิตคือการศึกษา
*อุปสรรค คือแรงกดันนำไปสู่ความสำเร็จ
*พรุ่งนี้จะดีได้ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
*การศึกษาคือการลงทุน
*ก้าวสั้นแล้วมั่นคง ดีกว่าล้มลงเพราะก้าวยาว
*ระยะทางพิสูจน์ม้าการเวลาพิสูจน์คน
*สู่ให้ถึงที่สุดอย่าหยุดเมื่อสิ้นหวัง
*การกระทำที่ไรสาระของบางคน…..แต่อาจมีสาระสำหรับคนบางคน
*คำพูดเล็กน้อยของคนบางคน….ทำให้หัวใจของคนบางคนพองโต
*ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน…..หรือค่าของคนอยู่ที่คนของใคร
คำหลัก:
คติประจำใจ
โดย
แดนไท
ลิงค์ที่อยู่ถาวร
สื่อประเภทวัสดุ รูปแบบของตัวอักษร
1. แบบหัวกลมเป็นแบบที่อ่านง่าย ชัดเจน มีระเบียบ นิยมใช้ในการสื่อสารแบบเป็นทางการ
2. แบบหัวตัดและไม่มีหัว เป็นรูปแบบที่ดัดแปลงมาจากการเขียนด้วยปากกาปากตัด
3.แบบคัดลายมือ หรือที่เรียนว่าตัวอาลักษณ์ เป็นตัวหนังสือตกแต่งที่ใช้ในราชการ
4. แบบประดิษฐ์เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ อารมณ์ ความรู้สึก
5. แบบหวัด(free hand writing)เป็นรูปแบบที่เขียนอย่างอิสระไม่มีแบบแผนเขียนง่าย
นวัตกรรมแห่งการเรียนรู้
ท่าน ผศ.วิวรรธน์ จันทร์เทพย์
ลักษณะของครูที่แท้จริง 3 ประการคือ
1. พัฒนาคนในด้านสติปัญญา จิตใจ และร่างกาย
2. เน้นความเป็นพลเมืองดี พึ่งตนเองได้ รับผิดชอบส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว
3. พัฒนาอาชีพ พัฒนาสังคม และสิ่งแวดล้อม
ลักษณะครูที่ดีในอนาคตควรจะ
**มีความเมตตา
** เสียสละ
** หมั่นเพียรศึกษา
**ปรับปรุง วิธีการเรียนการสอนให้เหมาะสมอยู่เสมอ
**ต้องเอาใจใส่ทำความเข้าใจเด็กทุกคน
รวมทั้งครูควรมีบทบาทให้เด็ก รู้จักเลือกสรร แยกแยะตรวจสอบข้อมูลข่าวสาร ทั้งช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้เด็ก ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญกว่าเนื้อหาที่เด็กจะได้รับ และสิ่งที่ควรจะทำมากที่สุด ก็คือ ความเป็นแบบอย่างที่ดี เพราะจะเป็นการสอนที่ดีที่สุด สังคมไทยเป็นสังคมเปิดในอนาคตองค์ความรู้การเรียนของสังคมก็จะเปิดรับการศึกษามากขึ้น เราน่าจะมีนโยบายสร้างครู International มากกว่าโรงเรียน Inter เพราะครู International หมายถึง ครูที่พัฒนาตนเองให้เข้าใจและรู้จักโลกใหม่ โดยคงความเป็นไทยไว้ เราต้องหันมาให้ความสำคัญของโรงเรียนอนุบาล ประถม และมัธยม ให้มากกว่านี้ เพื่อช่วยให้ครูมีศักดิ์ศรี มีความภูมิใจในความเป็นครูหวังว่าหลังจากอ่านบทความนี้แล้วเพื่อนๆ คงจะเดาทางออกนะคะ ว่าจะรับมือและจัดการกับตัวเองอย่างไรให้เหมาะกับการเป็นครูที่ดีในภายภาคหน้า
" ครูคนแรกคือแม่ "
เจ้ารู้ไหมใครคือผู้สอนสั่ง
มอบพลังคราเจ้าเยาว์ชันษารู้หรือไม่
ใครมอบสุวิชชาเป็นปฐมาจารย์
เจ้าคราเยาว์วัยแม่ของเจ้าประเสริฐเลิศล้ำยิ่ง
แม่ไขสิ่งที่เจ้าเฝ้าสงสัย
แม่เจ้าเป็นบรมครูอยู่ในใจ
แม่เจ้าไซร้คืออาจารย์ท่านแรกเอย
คุณธรรมประจำใจ
มงคลชีวิต 38 ประการ ที่ควรรู้
มงคล คือเหตุแห่งความสุข ความก้าวหน้าในการดำเนินชีวิต ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ให้พุทธศาสนิกชนได้พึงปฏิบัติ นำมาจากบทมงคลสูตรที่พระพุทธเจ้าตรัสตอบปัญหาเทวดาที่ถามว่า คุณธรรมอันใดที่ทำให้ชีวิตประสบความเจริญหรือมี "มงคลชีวิต" ซึ่งมี ๓๘ ประการได้แก่
๑. การไม่คบคนพาล
๒. การคบบัญฑิต
๓. การบูชาบุคคลที่ควรบูชา
๔. การอยู่ในถิ่นอันสมควร
๕. เคยทำบุญมาก่อน
๖. การตั้งตนชอบ
๗. ความเป็นพหูสูต
๘. การรอบรู้ในศิลปะ
๙. มีวินัยที่ดี
๑๐.กล่าววาจาอันเป็นสุภาษิต
๑๑.การบำรุงบิดามารดา
๑๒.การสงเคราะห์บุตร
๑๓.การสงเคราะห์ภรรยา
๑๔.ทำงานไม่ให้คั่งค้าง
๑๕.การให้ทาน
๑๖.การประพฤติธรรม
๑๗.การสงเคราะห์ญาติ
๑๘.ทำงานที่ไม่มีโทษ
๑๙.ละเว้นจากบาป
๒๐.สำรวมจากการดื่มน้ำเมา
๒๑.ไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย
๒๒.มีความเคารพ
๒๓.มีความถ่อมตน
๒๔.มีความสันโดษ
๒๕.มีความกตัญญู
๒๖.การฟังธรรมตามกาล
๒๗.มีความอดทน
๒๘.เป็นผู้ว่าง่าย
๒๙.การได้เห็นสมณะ
๓๐.การสนทนาธรรมตามกาล
๓๑.การบำเพ็ญตบะ
๓๒.การประพฤติพรหมจรรย์
๓๓.การเห็นอริยสัจ
๓๔.การทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน
๓๕.มีจิตไม่หวั่นไหวในโลกธรรม
๓๖.มีจิตไม่เศร้าโศก
๓๗.มีจิตปราศจากกิเลส
๓๘.มีจิตเกษม
อบายมุข 6
อบายมุข 6 ช่องทางของความเสื่อม ทางแห่งความพินาศ เหตุย่อยยับแห่งโภคทรัพย์ ได้แก่ ดื่มน้ำเมา เที่ยวกลางคืน เที่ยวดูการเล่น เล่นการพนัน คบคนชั่วเป็นมิตร และเกียจคร้านการทำงาน
ติดสุราและของมึนเมา มีโทษ 6 อย่าง คือ
*ความเสื่อมทรัพย์อันผู้ดื่มพึงเห็นเอง
*ก่อการทะเลาะวิวาท
*เป็นบ่อเกิดแห่งโรค
*เป็นเหตุเสียชื่อเสียง
*เป็นเหตุไม่รู้จักละอาย
*ทอนกำลังปัญญา
ชอบเที่ยวกลางคืน มีโทษ 6 อย่าง คือ
*ผู้นั้นชื่อว่าไม่คุ้มครอง ไม่รักษาตัว
*ผู้นั้นชื่อว่าไม่คุ้มครอง ไม่รักษาบุตรภรรยา
*ผู้นั้นชื่อว่าไม่รักษาทรัพย์สมบัติ
*ผู้นั้นเป็นที่ระแวงของคนอื่น
*คำพูดอันไม่เป็นจริงในที่นั้นๆ ย่อมปรากฏในผู้นั้น
*อันเหตุแห่งทุกข์เป็นอันมากแวดล้อม
ชอบเที่ยวดูการละเล่น มีโทษ โดยการงานเสื่อมเสียเพราะใจกังวลคอยคิดจ้อง กับเสียเวลาเมื่อไปดูสิ่งนั้นๆ ทั้ง 6 กรณี คือ
*รำที่ไหนไปที่นั่น
*ขับร้องที่ไหนไปที่นั่น
*ดนตรีที่ไหนไปที่นั่น
*เสภาที่ไหนไปที่นั่น
*เพลงที่ไหนไปที่นั่น
*เถิดเทิงที่ไหนไปที่นั่น
ติดการพนัน มีโทษ 6 อย่าง คือ
*ผู้ชนะย่อมก่อเวร
*ผู้แพ้ย่อมเสียดายทรัพย์ที่เสียไป
*ความเสื่อมทรัพย์ในปัจจุบัน
*ถ้อยคำของคนเล่นการพนัน ซึ่งไปพูดในที่ประชุมฟังไม่ขึ้น
*ถูกมิตรอมาตย์หมิ่นประมาท
*ไม่มีใครประสงค์จะแต่งงานด้วย เพราะเห็นว่า ชายนักเลงเล่นการพนันไม่สามารถจะเลี้ยงภรรยา
คบคนชั่ว มีโทษ โดยนำให้กลายไปเป็นคนชั่วอย่างคนที่ตนคบทั้ง 6 ประเภท คือ
*นำให้เป็นนักเลงการพนัน
*นำให้เป็นนักเลงเจ้าชู้
*นำให้เป็นนักเลงเหล้า
*นำให้เป็นคนลวงผู้อื่นด้วยของปลอม
*นำให้เป็นคนโกงเขาซึ่งหน้า
*นำให้เป็นคนหัวไม้
เกียจคร้านการงาน มีโทษ โดยทำให้ยกเหตุต่างๆ เป็นข้ออ้างผัดเพี้ยนไม่ทำการงาน โภคะใหม่ก็ไม่เกิด โภคะที่มีอยู่ก็หมดสิ้นไป คือให้อ้างไปทั้ง 6 กรณี คือ
*หนาวนักแล้วไม่ทำการงาน
*ร้อนนักแล้วไม่ทำการงาน
*เย็นไปแล้วไม่ทำการงาน
*ยังเช้านักแล้วไม่ทำการงาน
*หิวนักแล้วไม่ทำการงาน
*อิ่มนักแล้วไม่ทำการงาน
อบายมุขทั้งหมดนี้หากประพฤติเข้าแล้วก็เป็นเหตุให้เกิดความฉิบหาย ให้เกิดความเสื่อมเสียแก่ชีวิตร่างกายได้เหมือนกันทุกข้อ
My Friends
ฉลองวันเกิดให้กับเพื่อนคนเล็กของพวกเรา (เสื้อขาว)
" เพื่อนแท้....ที่รักเราจริง "
เพื่อนทั่วไปไม่เห็นคุณร้องไห้
เพื่อนแท้มีหัวไหล่ไว้ซับน้ำตาให้
เพื่อนทั่วไปถือขวดไวน์มางานปาตี้ของคุณ
เพื่อนแท้จะมาแต่หัววันเพื่อช่วยเตรียมงาน
เพื่อนทั่วไปคาดหวังให้คุณอยู่เคียงข้างเขาเสมอ
เพื่อนแท้คาดหวังที่จะอยู่เคียงข้างคุณเสมอไป
การใช้สีไม้
ภาพสีไม้
ตัวอย่างการวาดภาพ
ผลงานสีไม้ของสมาชิกคบ.4 ภาษาอังกฤษ
ผักสวนครัวของ นาย ศิโรจน์ ปั้นทองคำ
น.ส. ศิริกมล ศรีประเสริฐ
น.ส. ธิดารัตน์ ปัญญาชัยรักษา
น.ส. อภิรดี พรมแสงใส
น.ส. กนกอร สำราญญาต
น.ส. นริศรา โพธิ์ขำ
นางสาว ผานิตย์ อุ่มเอิบ
น.ส. พลอยไพรินทร์ สโมทัย
นางสาว ละมัย จันทร
เนื้อหาที่ใช้ประกอบการสอน
The sentence
1. I can see a giraffe and a lion when
I go to the zoo.
2. The elephant eats sugar cones and
bananas.
3. The bird live on the.
4. A cow has 4 leg.
5. A butterfly has a green, blue, black,
and yellow color.
Math the word A and B
A
1. bird 2. butterfly 3. duck 4. giraffe 5. rabbit
6. crab 7. ladybug 8. hen 9. pig 10. cow
11. monkey 12. elephant 13. ant
14. lion 15. horse 16. snake
17. goat 18. frog 19. turtle
B
a.วัว b.ลิง c.เต่า d.ม้า e.สิงโต
f.ช้าง g.นก h.ผีเสื้อ j.แพะ l.งู
m.ยีราฟ n.กระต่าย o.ปู
p.เต่าทอง q.แม่ไก่ r.หมู s.มด
น.ส. พรรณิภา ศรีหาวัตร
นางสาว ยุวดี มูลสิงห์
นางสาว สมคิด จันทรเวท
น.ส. กิตติยาภรณ์ นามดี
น.ส. กมลภัทร โพธิภิรมณ์
รวมพลคนอยู่ครุศาสตร์
สมาชิกของห้องในการเข้าร่วมกจกรรมต่างๆของคณะ/มหาวิทยาลัย
วันไหว้ครู
ความประทับใจของพวกเรากับรางวัลชนะเลิศการประกวดพานประเพศสวยงาม
วันคริสมาสต์
ระครประกอบการเรียนการสอนของพวกเรา
กีฬาคณะครุศาสตร์
ทีมงานสีฟ้าครั้งเมื่อตอนอยู่ปี 1
ตัวอย่างสื่อกราฟิก
1. แผนภูมิลำดับเรื่อง ใช้อธิบายเรื่องที่มีรายละเอียดเกี่ยวข้องกัน จัดทำให้แยกแผ่นไว้เป็นลำดับ จากไม่ซับซ้อน เข้าใจง่าย ไปจนถึงที่มีรายละเอียดและซับซ้อนมากขึ้น เช่น แผนภูมิแสดงระบบต่างๆ ในร่างกายคนเรา [ แสดงภาพแผนภูมิลำดับเรื่อง แสดงเครื่องมือช่าง ]
2.กราฟแท่ง เป็นชนิดที่ดูง่ายกว่ากราฟเส้น มักจะแสดงข้อมูลให้เห็นเป็นช่วงๆ เช่น กราฟแท่งแสดงการเพิ่มของประชากรช่วง 5 ปีที่ผ่านมา [ แสดงภาพกราฟิกแท่งแสดงความต้องการผลิตภัณฑ์ปิโตเลียมชนิดต่างๆ ]
3.แผนภูมิอธิบายภาพ ใช้แสดงและบอกรายละเอียดของส่วนต่างๆ ของเนื้อเรื่อง เช่น อธิบายการแต่งเครื่องแบบของนักเรียน การอธิบายกล้องถ่ายภาพ [ แสดงภาพแผนภูมิอธิบายภาพ ]
4.ลูกโลก globe เป็นกราฟิกแสดงพื้นที่ของโลกเรา การกำหนดรายละเอียดสามารถทำได้ตามความต้องการ เช่น ลูกโลกขนาดเล็กก็แสดงขอบเขตอย่างหยาบสำหรับผู้เรียนที่เริ่มเรียนรู้ [ แสดงภาพลูกโลก 1] [ แสดงภาพลูกโลก 2] ที่มาของภาพ : av instruction 1973
5.แผนที่ map เป็นกราฟิกที่ย่อส่วนจากพื้นที่ขนาดใหญ่ ทำให้ผู้ใช้แผนที่มองเห็นอาณาเขตที่ ติดต่อกัน เปรียบเทียบความแตกต่างของพื้นที่ได้ แผนที่บางแผ่นทำให้เห็นสภาพสูงต่ำของพื้นดินได้
[ แสดงภาพแผนที่ ]
มาอ่านหนังสือกันดีกว่า
เคล็ดลับการอ่านหนังสือ
เทคนิคการอ่านอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
1. เริ่มอ่านหนังสืออย่างง่ายและสนุก
2. อ่านสม่ำเสมอทุกวันในช่วงเวลาสั้น ๆ
3. มีความตั้งใจที่จะอ่านให้เร็วกว่าเดิม
4. กำหนดเวลาในการอ่าน ๆ ให้แน่นอน เช่น 30 นาที 1 ชั่วโมง
5. จับใจความให้ได้ด้วยการทดลองทำนายเนื้อเรื่องล่วงหน้าและทดลองทำนายเนื้อเรื่อง
6. ศึกษาศัพท์ ความหมายของคำที่ใช้ คำใดที่ไม่แน่ใจควรทำเครื่องหมายไว้เพื่อกลับมาศึกษาภายหลัง
7. อย่าพยายามเคลื่อนไหวสายตาย้อนกลับ จะทำให้เกิดความสับสน
8. อ่านโดยกวาดสายตาไปเรื่อย ๆ
9. อ่านในใจ ไม่พึมพำ หรือทำปากขมุบขมิบ
10. จดบันทึกผลความก้าวหน้า
11. อย่าหยุดอ่านเพื่อจดบันทึกจนกว่าจะจบตอนหนึ่ง ๆ
เทคนิค SQ 3R ของ Dr.Francis Robinson
1. สำรวจ (Survey)ส่วนต่าง ๆ ของหนังสือ เช่น คำนำ สารบัญ บรรณานุกรม
2. ตั้งคำถาม (Question) จากเนื้อหา
3. อ่านหาคำตอบ(Reading)
4. ระลึก(Recall) สิ่งที่อ่านผ่านมาแล้ว
5. ทบทวน(Review)
เทคนิคการอ่านตำราเรียนให้ดี
1. สำรวจหนังสือ : เพื่อรู้จักคุ้นเคย
2. อ่านแนวคิดหลัก : จับประเด็นสำคัญ
3. ตั้งคำถามขณะอ่าน : อะไร ทำไม อย่างไร ใคร เมื่อไหร่
4. เน้นประเด็นสำคัญ : ทำเครื่องหมายวรรค ตอน
5. ประสานคำบรรยายกับตำรา ; ช่วยให้เข้าใจลึกซึ้ง
6. ทบทวน: บ่อย ๆ จะจำได้ดี
การศึกษาตามหลัก SOAR
S = Survey สำรวจหรือสร้างความคุ้นเคยก่อนอ่าน
1. ที่มา คำนำ สารบัญ รูปแบบของหนังสือ หนังสืออ้างอิง ดัชนี
2. คำนำ หัวข้อสรุป ของแต่ละบท
O = organizeเรียบเรียงหรือจดสิ่งที่ได้อ่าน
1. ทำเครื่องหมายเน้นประเด็นสำคัญ ประเด็นรองเมื่ออ่าน
2. จดย่อ
A = Anticipate ทดลองทำแบบฝึกหัด ตอบคำถามหรือทดสอบ
R = Recite and Review หัดท่องจำและทบทวนเสมอ ๆ
นักศึกษาวิชาเอกภาษาอังกฤษชั้นปีที่4
http://kruwat.blogspot.com
http://kaeprakhon-tai.blogspot.com
http://ka-tai.blogspot.com
http://kamonpatgift.blogspot.com/
http://kanok-orn.blogspot.com/
http://kritsanaphol.blogspot.com/
http://narissaraenglish.blogspot.com/
http://phanitta.blogspot.com/
http://pannipa9.blogspot.com/
http://pondpui.blogspot.com/
http://ploipairineng.blogspot.com/
http://sirinapa1985.blogspot.com/
http://sirigate.blogspot.com/
http://somkitenglish.blogspot.com/
http://starteacher1984.blogspot.com/
http://thidaratee.blogspot.com/
http://yuwadeeenglish.blogspot.com/
http://doraemai.blogspot.com/
http://apiradiam@gmail.com/
คลังบทความของบล็อก
►
2008
(1)
►
มกราคม
(1)
▼
2007
(10)
►
ตุลาคม
(1)
▼
กันยายน
(9)
เทคโนโลยีสารสนเทศ
เครือข่ายการเรียนรู้
การใช้ " Filter "
วิธีการสร้าง blogger
วิธีการวาดภาพเบื้องต้นอย่างง่าย
การเรียนโปรแกรม photoshop
เรื่องวันนี้
ภูมิใจนำเสนอ
โรคไทรอยด์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น